ขั้นตอนการทำวิทยานิพนธ์ 10 ขั้นตอน ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าทุกขั้นตอนในการทำวิทยานิพนธ์เปรียบเหมือนบันได โดยเฉพาะบันไดขั้นแรกที่มีความสำคัญและจำเป็นอย่างมาก เพราะทุกขั้นตอนจะไม่สามารถแยกออกจากกันได้เด็ดขาด ทุกขั้นตอนมีความสำคัญทำงานสอดประสานกันอย่างถูกต้อง ดังนั้น THESIS DD จึงให้ความสำคัญและนำกระบวนการมาตรฐานเหล่านี้ไปให้บริการวิทยานิพนธ์แบบครบวงจร เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพถูกต้องตามหลักวิชาการจนสิ้นสุดกระบวนการแตกต่างจากเว็บรับทำวิทยานิพนธ์ในตลาดทั่วไป ซึ่งมี 10 ขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 การทบทวนวรรณกรรมและวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุด วิทยานิพนธ์จะมีคุณภาพออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับการทบทวนวรรณกรรมและการทำวิทยานิพนธ์ ซึ่งผู้ทำวิทยานิพนธ์ต้องศึกษาวิเคราะห์ วิจารณ์ให้ละเอียดถี่ถ้วน จึงจะเกิดประโยชน์ การศึกษาเชิงวิเคราะห์วิจารณ์แตกต่างกับการศึกษา เพื่อเอาใจความธรรมดา อีกทั้งยังต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ฉะนั้น จึงผู้ทำวิทยานิพนธ์มีความจำเป็นต้องฝึกฝนให้เกิดทักษะในการศึกษาเชิงวิเคราะห์วิจารณ์ การศึกษาเชิงวิเคราะห์วิจารณ์ เป็นการศึกษาที่มุ่งให้ได้เนื้อความจริง ๆ ทุกขั้นตอน มิใช่ศึกษาเพียงเพื่อรู้ผลจากวรรณกรรมและการทำวิทยานิพนธ์เท่านั้น แต่ต้องวิเคราะห์ที่มาที่ไป รายละเอียดทุกขั้นตอนของเรื่องที่ศึกษา จึงต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการศึกษาเชิงวิเคราะห์ ทบทวน กลับไปกลับมาหลายครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในเรื่องที่กำลังศึกษา โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นเนื้อเรื่องซึ่งมีนักวิจัยเขียนไว้หลายท่าน ผู้ทำวิทยานิพนธ์ยิ่งต้องพยายามศึกษา – คิด-วิเคราะห์งานวิจัยของนักวิจัยแต่ละท่านนับเป็นขั้นตอนแรกของการศึกษาทบทวน จากนั้นจึงนำสรุปผลที่ได้มาวิเคราะห์หาข้อสรุปให้ด้วยตัวผู้ทำวิทยานิพนธ์ ในแต่ละตัวแปรที่ทำให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์ต้องศึกษาและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการทำวิทยานิพนธ์
เพื่อนำแนวคิดมาประยุกต์สอดคล้องกับงานวิจัยของนักวิจัยท่านใดท่านหนึ่งหรือหลายท่านก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเหตุผลและวัตถุประสงค์ของการทำวิทยานิพนธ์ มาสรุปเป็นแนวทางสำหรับการกำหนดตัวแปรการทำวิทยานิพนธ์สำหรับผู้ทำวิทยานิพนธ์เอง โดยจะเป็นการประยุกต์แนวคิด เพราะการทบทวนวรรณกรรมและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่ดี จะช่วยให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์ได้แนวคิดครบทุกขั้นตอนของการทำวิทยานิพนธ์ เริ่มตั้งแต่หัวข้อการทำวิทยานิพนธ์ ปัญหาหรือคำถามของการทำวิทยานิพนธ์ วัตถุประสงค์ของการทำวิทยานิพนธ์ กรอบแนวคิดของการทำวิทยานิพนธ์ ระเบียบวิธีการทำวิทยานิพนธ์ การวิเคราะห์ผลการทำวิทยานิพนธ์ การวิจารณ์ผลการทำวิทยานิพนธ์ การเสนอแนะผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ การอ้างอิงเอกสารที่เกี่ยวข้อง และเทคนิคการนำเสนอผลการทำวิทยานิพนธ์ รวมไปถึงแนวทางในการเผยแพร่ผลการทำวิทยานิพนธ์
ขั้นตอนที่ 2 การกำหนดปัญหาหรือคำถามของการทำวิทยานิพนธ์ การกำหนดปัญหาหรือคำถามของการทำวิทยานิพนธ์เป็นผลมาจากการศึกษาทบทวนวิเคราะห์วรรณกรรมและวิทยานิพนธ์ที่ดี ก็จะเกิดคำถามหรือปัญหา เพื่อนำมาสู่ การวางแผนค้นหาคำตอบอย่างมีรูปแบบ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การวางแผนทำวิทยานิพนธ์นั่นเอง ปัญหาการทำวิทยานิพนธ์หรือคำถามการทำวิทยานิพนธ์คืออะไร ผู้ทำวิทยานิพนธ์จะต้องชัดเจนว่า เรื่องที่กำลังสนใจอยู่มีปัญหาหรือไม่ และถ้ามี ปัญหานั้นคืออะไร เป็นปัญหาที่สามารถหาคำตอบได้ โดยไม่ต้องใช้กระบวนการทางการทำวิทยานิพนธ์หรือไม่ ถ้าเป็นคำถามที่สามารถตอบได้ก็ไม่จำเป็นต้องทำวิทยานิพนธ์ การพิจารณาว่าเรื่องที่กำลังสนใจเป็นปัญหาหรือไม่นั้น มีวิธีการพิจารณาได้หลายวิธี วิธีหนึ่งคือ พิจารณาจากการเพิ่มขึ้นของแนวโน้มของปัญหา ขนาดของปัญหา และความรุนแรงของปัญหา หรือผลกระทบที่เกิดจากปัญหาเหล่านั้น ทั้งด้านสุขภาพ และสังคม รวมไปถึงความทันสมัย เป็นเรื่องที่ตรงกับความต้องการในขณะนั้นหรือไม่ ด้วยเหตุนี้การศึกษาเชิงวิเคราะห์จึงมีความสำคัญยิ่ง
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดวัตถุประสงค์ ผลจากความชัดเจนของปัญหาการทำวิทยานิพนธ์เป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์สามารถนำมาใช้กำหนดวัตถุประสงค์ของการทำวิทยานิพนธ์ได้ชัดเจน สอดคล้อง ตรงกับสิ่งที่ต้องการหาตอบ หรือที่ยังเป็นปัญหา การกำหนดวัตถุประสงค์ที่ดีจะต้องเป็นวัตถุประสงค์ที่สามารถวัดได้ ชัดเจน ถูกต้อง ตรงตามบริบทกับเรื่องที่ต้องการหาคำตอบ วัตถุประสงค์การทำวิทยานิพนธ์เปรียบเสมือนเข็มทิศที่บอกทิศทางของการทำวิทยานิพนธ์ว่าจะดำเนินไปในลักษณะใด วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในการทำวิทยานิพนธ์เป็นหัวใจสำคัญ เพราะจะต้องเชื่อมโยงระหว่างผลที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรมและวิทยานิพนธ์ในอดีตกับวิทยานิพนธ์เรื่องใหม่ที่กำลังจะทำหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า วัตถุประสงค์เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างผลลัพธ์ต่าง ๆ ที่ได้จากการทบทวนวรรณกรรมและวิทยานิพนธ์ไปสู่มิติของการค้นคว้าศึกษาวิจัยเรื่องใหม่ว่าสิ่งที่ต้องการค้นหาคำตอบคืออะไร
ขั้นตอนที่ 4 กรอบแนวคิดในการทำวิทยานิพนธ์ เป็นแผนภูมิที่แสดงแนวคิดของทิศทางในการทำวิทยานิพนธ์ แสดงความสัมพันธ์เชิงเหตุ ผลระหว่างตัวแปรที่ ศึกษา ซึ่งได้มาจากการกำหนดวัตถุประสงค์ และการทบทวนวรรณกรรมและวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้อง เป็นแผนภูมิกรอบแนวความคิดในการทำวิทยานิพนธ์ที่จะต้องสื่อและขยายความให้ชัดเจน เพื่อเชื่อมโยงความคิดต่อเนื่องจากวัตถุประสงค์ของการทำวิทยานิพนธ์ กรอบแนวคิดในการทำวิทยานิพนธ์ที่ดีจะต้องเป็นแผนภูมิที่ศึกษาแล้วสามารถอธิบายผู้ทำวิทยานิพนธ์ได้ถึงความเกี่ยวพันซึ่งกันและกันในเชิงเหตุและผลระหว่างตัวแปรต่าง ๆ ที่ต้องการศึกษา.ได้ ต้องมีความชัดเจนและเป็นตัวแทนจากการสรุปสาระสำคัญของแนวคิดในการทำวิทยานิพนธ์ทั้งหมด ที่ผู้ทำวิทยานิพนธ์สามารถใช้เป็นทั้งสื่อและสาร สำหรับสรุปและนำเสนอให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายในระยะเวลาอันสั้น
ขั้นตอนที่ 5 ระเบียบวิธีการทำวิทยานิพนธ์ ต้องกำหนดให้เหมาะสมกับปัญหาของการทำวิทยานิพนธ์ และวัตถุประสงค์ของการทำวิทยานิพนธ์ ประกอบด้วยการวางรูปแบบของการทำวิทยานิพนธ์ ประชากร กลุ่มตัวอย่าง ขนาดตัวอย่าง การสุ่มตัวอย่าง การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการทำวิทยานิพนธ์ การทดสอบเครื่องมือ และการใช้สถิติเพื่อพิสูจน์เรื่องที่ต้องการหาคำตอบ ในทุกขั้นตอนของระเบียบวิธีวิจัยจะต้องมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกันตลอด และเชื่อมโยงไปถึงลักษณะของการเขียนกรอบแนวคิดในการทำวิทยานิพนธ์ด้วย
ขั้นตอนที่ 6 การวิเคราะห์ผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ ในขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนของการประมวลผลที่ได้จากข้อมูลในแบบวัดทั้งหมด มานำเสนอผลในรูปแบบของตารางประกอบคำบรรยาย หรือการบรรยายเพียงอย่างเดียว ซึ่งผู้ทำวิทยานิพนธ์จะต้องใช้ความรู้ทางด้านระบาดวิทยา และสถิติ มาเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์นำเสนอผล การนำเสนอข้อมูลในตารางแต่ละตารางจะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่า ต้องการเสนอผลหรือต้องการแสดงอะไร การศึกษาค่าตัวเลขในตา รางควรศึกษาเชิงวิเคราะห์ดีกว่าการศึกษาไปตามค่าตัวเลขที่ปรากฏในตาราง เพราะการศึกษาผลเชิงวิเคราะห์เป็นการช่วยให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์สามารถสรุปผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ตั้งแต่เริ่มแรก เป็นการกระตุ้นให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์รู้จักคิดเชิงวิเคราะห์สรุปไปตามลำดับในทุกขั้นตอนของการรายงานผลการทำวิทยานิพนธ์ เป็นกระบวนการฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ที่มีประโยชน์ซึ่งเป็นขบวนการเรียนรู้ที่สำคัญ ที่จะนำไปสู่การอภิปรายผล หรือการวิจารณ์ผลที่ดี
ขั้นตอนที่ 7 การอภิปรายผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ เป็นการเปรียบเทียบผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ที่ผู้ทำวิทยานิพนธ์ค้นพบกับผลจากการทำวิทยานิพนธ์ในอดีต หรือจากทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ทำวิทยานิพนธ์จะต้องระมัดระวังให้ดี อย่าวิจารณ์ให้เกินจริง ต้องคำนึงถึงความเหมือนและความแตกต่างกันของแนวคิดในการทำวิทยานิพนธ์แต่ละเรื่อง ไม่ควรที่จะนำเอาเรื่องที่แตกต่างกันมาเปรียบเทียบกัน โดยขาดการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ ทักษะขั้นตอนนี้สำคัญยิ่งเป็นขั้นตอนที่แสดงถึงกระบวนการ หรือองค์ความคิดของผู้ทำวิทยานิพนธ์ว่า มีความรู้ชัดเจนจากการทบทวนวรรณกรรม และวิทยานิพนธ์มาพอเพียงหรือไม่ การวิจารณ์ที่ดีต้องยึดหลักเที่ยงตรง ถูกต้อง ไม่เอนเอียง นอกจากการวิจารณ์ผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์แล้ว การวิจารณ์ระเบียบวิธีวิจัยก็เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ทำวิทยานิพนธ์จะละเลยไม่ได้ ในขั้นตอนนี้จะไม่ยุ่งยากถ้าหากผู้ทำวิทยานิพนธ์ได้ฝึกฝนทักษะการคิดวิเคราะห์มาตั้งแต่เริ่มขั้นตอนแรกของการทำวิทยานิพนธ์จนกระทั่งถึงขั้นตอนที่ 6 เพราะทุกขั้นตอนของ การทำวิทยานิพนธ์ที่กล่าวมาทั้ง 6 ขั้นตอน ล้วนเป็นเส้นทางหรือพื้นฐานเบื้องต้นที่ช่วยพัฒนาและฝึกฝนให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์มีทักษะในการคิดวิเคราะห์
ขั้นตอนที่ 8 การเสนอแนะผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ ข้อสำคัญที่สุดที่ผู้ทำวิทยานิพนธ์ต้องตระหนักไว้เสมอคือ เสนอแนะให้ตรงกับผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ ตรงไปตรงมา และเป็นองค์ความคิดที่เกิดฐานข้อมูลที่ได้จากผลการทำวิทยานิพนธ์ด้วยตัวผู้ทำวิทยานิพนธ์เอง ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ถี่ถ้วน ว่าผลการทำวิทยานิพนธ์ที่ได้นั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง อ้างอิงจากผลการศึกษาวิจัย ที่ผู้ทำวิทยานิพนธ์ค้นพบโดยตรง ไม่ใช่ไปอ้างอิงถึงผลจากการศึกษาของผู้อื่น หรือเนื้อหาที่มีอยู่แล้วในอดีต ในขั้นตอนนี้ต้องคำนึงถึงระเบียบวิธีวิจัยด้วย ว่ามีข้อจำกัดในการที่จะนำผลที่ได้จากการทำวิทยานิพนธ์ไปใช้หรือไม่ในตัวแปรใดบ้าง ต้องเสนอแนะให้อยู่ในกรอบของความเป็นจริงจากฐานข้อมูลของผลการศึกษา ซึ่งบางครั้งมีข้อจำกัดบางประการของการทำวิทยานิพนธ์ ที่ทำให้ไม่สามารถนำผลการทำวิทยานิพนธ์ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้ในวงกว้าง
ขั้นตอนที่ 9 การเขียนเอกสารอ้างอิง ต้องเขียนให้ถูกต้อง มีรูปแบบการเขียนอยู่หลายลักษณะ ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของหลักสูตร และบรรณาธิการ ผู้ทำวิทยานิพนธ์ต้องศึกษาให้ชัดเจนก่อนจะเริ่มลงมือเขียน มิฉะนั้นจะก่อความยุ่งยากและเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

ขั้นตอนที่ 10 การเผยแพร่ผลการทำวิทยานิพนธ์ การทำวิทยานิพนธ์ต้องลงทุนมากทั้งด้านเวลาและงบประมาณ ซึ่งการทำวิทยานิพนธ์จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ถ้าผลการทำวิทยานิพนธ์ไม่ได้เผยแพร่ ฉะนั้นขั้นตอนที่ 10 ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ ซึ่งผู้ทำวิทยานิพนธ์จะต้องนำผลการทำวิทยานิพนธ์ไปเผยแพร่ การเผยแพร่อาจทำได้โดยการเสนอผลการทำวิทยานิพนธ์ในการประชุมวิชาการ การเสนอในบอร์ดนิทรรศการและการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ ซึ่งผู้ทำวิทยานิพนธ์จะต้องศึกษาอีกว่าในการเผยแพร่ผ่านสื่อแต่ละอย่างนั้นมีรูปแบบ ลักษณะ วิธีการ อย่างไร ก่อนที่จะเตรียมการเผยแพร่ สรุปการวางแผนกำหนดแนวทางในการทำวิทยานิพนธ์ ผู้ที่ต้องการทำวิทยานิพนธ์ ควรวางแผนและกำหนดแนวทางในการทำการทำวิทยานิพนธ์ โดยพิจารณาจากรายละเอียดในแต่ละขั้นตอนทั้ง 10 ขั้นตอนของการทำวิทยานิพนธ์ นำมาวิเคราะห์และกำหนดระยะเวลาให้เหมาะสมกับภาระงานในแต่ละขั้นตอน ตามเวลาและงบประมาณที่มีอยู่ จากนั้นก็ลงมือปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้ การที่ผู้ทำวิทยานิพนธ์กำหนดตารางเวลาไว้เป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้ทำวิทยานิพนธ์พยายามเดินตามแผนการที่กำหนดไว้ ช่วยให้การทำวิทยานิพนธ์เสร็จได้ทันเวลา
Pingback: สอบ Defense QE - THESIS DD
Pingback: วิธีการแบ่ง ประเภทงานวิจัย - THESIS DD - by Dr.Kwang
Pingback: การทบทวนวรรณกรรม เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง - THESIS DD - by Dr.Kwang
Pingback: แผนการทำวิทยานิพนธ์ - THESIS DD